เชิงนามธรรม

การแนะนำ
การบาดเจ็บจากไฟไหม้มักพบในกรณีฉุกเฉิน และมักกลายเป็นช่องทางเข้าสู่เชื้อโรค ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้มากกว่า 450,000 ราย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,400 รายในสหรัฐอเมริกา อัตราการเกิดการบาดเจ็บจากไฟไหม้ในอินโดนีเซียอยู่ที่ 0.7% ในปี 2556 มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยเหล่านี้ จากการศึกษาหลายชิ้นเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะ พบว่าผู้ป่วยได้รับการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งบางรายดื้อต่อยาปฏิชีวนะบางชนิด การใช้การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง(HBOT) ในการรักษาแผลไฟไหม้มีผลดีหลายประการ รวมถึงการจัดการการติดเชื้อแบคทีเรีย และเร่งกระบวนการสมานแผล ดังนั้น การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของ HBOT ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
วิธีการ
นี่คือการศึกษาวิจัยเชิงทดลองในกระต่ายโดยใช้แบบทดสอบกลุ่มควบคุมหลังการทดลอง กระต่าย 38 ตัวได้รับแผลไฟไหม้ระดับสองที่บริเวณไหล่ด้วยแผ่นโลหะเหล็กที่ผ่านการให้ความร้อนเป็นเวลา 3 นาที มีการเพาะเชื้อแบคทีเรียในวันที่ 5 และ 10 หลังจากสัมผัสกับแผลไฟไหม้ ตัวอย่างถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ HBOT และกลุ่มควบคุม การวิเคราะห์ทางสถิติดำเนินการโดยใช้วิธี Mann-Whitney U
ผลลัพธ์
แบคทีเรียแกรมลบเป็นเชื้อก่อโรคที่พบมากที่สุดในทั้งสองกลุ่ม Citrobacter freundi เป็นแบคทีเรียแกรมลบที่พบมากที่สุด (34%) ในผลการเพาะเลี้ยงของทั้งสองกลุ่ม
เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ไม่พบการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในผลการเพาะเลี้ยงของกลุ่ม HBOT (0%) เทียบกับ (58%) พบว่าการเจริญเติบโตของแบคทีเรียลดลงอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่ม HBOT (69%) เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (5%) ระดับแบคทีเรียคงที่ในกระต่าย 6 ตัว (31%) ในกลุ่ม HBOT และกระต่าย 7 ตัว (37%) ในกลุ่มควบคุม โดยรวมแล้ว กลุ่มที่ได้รับ HBOT มีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.001)
บทสรุป
การให้ HBOT สามารถลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในแผลไฟไหม้ได้อย่างมาก
เครดิต: https://journals.lww.com/annals-of-medicine-and-surgery/fulltext/2022/02000/bactericidal_effect_of_hyperbaric_oxygen_therapy.76.aspx
เวลาโพสต์: 8 ก.ค. 2567